ลักษณะของดอกกุหลาบ
กุหลาบเป็นพรรณไม้ยืนต้น เป็นพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นมีความยาวประมาณ 30-200เซนติเมตร ลำต้นเตี้ยและสูง มีหนามหรือไม่มีแล้วแต่ชนิดพันธุ์ลำต้นสีเขียวเมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาลแตกกิ่งก้านมา
รอบต้นใบเป็นใบรวมแตกออกจากกิ่งก้านก้านใบจะมีหูใบติด
อยู่ด้วยลักษณะใบโคนใบมนปลายใบแหลมขอบใบมีหยักเล็กน้อยตัวใบนิ่มมีสีเขียวใบจะออกจากก้านใบเป็นคู่ขนาดความกว้างของใบประมาณ 2- 4 เซนติเมตรยาวประมาณ3 - 5เซนติเมตรดอกเป็นดอกเดี่ยวมีก้านดอกยาวแตกออกจากปลายกิ่งหรือง่ามใบที่กิ่ง
ลักษณะดอกเป็นกลีบเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆประมาณ4-6 ชั้นดอกมีกลีบ 5-15 กลีบขอบดอกเรียบตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้และตัวเมียอยู่รวมกันดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ดอกบานมี ความกว้างประมาณ 2-6 เซนติเมตรลักษณะของลำต้นใบดอกแตกต่างกันไปตามชนิด
การดูแลรักษา
แสงแดด ต้องการแสงแดดจัดกลางแจ้ง
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลางควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง
ดิน ดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ร่วนเหนียว มีความชื้นปานกลาง ระบายน้ำได้ดี
ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1-2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ 1-2 เดือน/ครั้ง
วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2557
ดาวกระจาย
ลักษณะของดาวกระจาย
จัดเป็นไม้ล้มลุก มีอายุได้ราว 1 ปี ลำต้นตั้งตรงมีความสูงของได้ประมาณ 25-85 เซนติเมตร กลางลำต้นแตกกิ่งก้านสาขามาก ลำต้นเป็นเหลี่ยมและมีขนเล็กน้อย ส่วนโคนต้นเป็นสีม่วงและไม่มีขนปกคลุม กิ่งก้านมีลักษณะเป็น 4 เหลี่ยม โดยจัดเป็นพรรณไม้กลางแจ้ง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
การดูแลรักษา
การรดน้ำทำตามความจำเป็น เตรียมดินก่อนปลูกให้พอสมควร เมื่อต้นงอกและมีขนาดโตคือมีใบจริง 2-3 คู่ใส่ปุ๋ยผสม 15-15-15 หรือใกล้เคียง ต้นละประมาณ 1 ช้อนชา เพียงครั้งเดียว ดาวกระจายจะงามทั้งต้นและดอก
แต่มีข้อเสียนิดหน่อย คือ ดาวกระจายมีอายุค่อนข้างสั้น ออกดอก เพียง 3-4 ชุดต้นจะโทรม และตายในที่สุด จึงต้องขยันปลูกใหม่เสมอ
จัดเป็นไม้ล้มลุก มีอายุได้ราว 1 ปี ลำต้นตั้งตรงมีความสูงของได้ประมาณ 25-85 เซนติเมตร กลางลำต้นแตกกิ่งก้านสาขามาก ลำต้นเป็นเหลี่ยมและมีขนเล็กน้อย ส่วนโคนต้นเป็นสีม่วงและไม่มีขนปกคลุม กิ่งก้านมีลักษณะเป็น 4 เหลี่ยม โดยจัดเป็นพรรณไม้กลางแจ้ง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
การดูแลรักษา
การรดน้ำทำตามความจำเป็น เตรียมดินก่อนปลูกให้พอสมควร เมื่อต้นงอกและมีขนาดโตคือมีใบจริง 2-3 คู่ใส่ปุ๋ยผสม 15-15-15 หรือใกล้เคียง ต้นละประมาณ 1 ช้อนชา เพียงครั้งเดียว ดาวกระจายจะงามทั้งต้นและดอก
แต่มีข้อเสียนิดหน่อย คือ ดาวกระจายมีอายุค่อนข้างสั้น ออกดอก เพียง 3-4 ชุดต้นจะโทรม และตายในที่สุด จึงต้องขยันปลูกใหม่เสมอ
ต้นเทียน
ลักษณะของต้นเทียน
จัดเป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก มีอายุราว 1 ปี มีความสูงของต้นประมาณ 20-70 เซนติเมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านใกล้กับโคนต้น ข้อกลวง ต้นใหญ่ เป็นรูปกลมทรงกระบอก ลำต้นมีลักษณะกลมเป็นสีเขียวอ่อนอมสีแดง อวบน้ำมีเนื้อนิ่ม ผิวเรียบ เนื้อใส โคนต้นเป็นสีแดง
การปลูก
ปลูกง่ายโดยใช้เมล็ดปลูกปรับดินให้เรียบ กำจัดวัชพืชออกให้หมด หยอดเมล็ดลงในดินให้ลึก 2–3 ซม.กลบดินรดน้ำให้ชุ่ม
การปลูกและดูแลรักษา
เทียนบ้านปลูกเลี้ยงง่าย โตเร็ว ควรปลูกไว้ในที่ร่มรำไรและให้น้ำปานกลาง ถ้าปลูกไว้ในที่แสงแดดจัดจำเป็นต้องรดน้ำบ่อยครั้ง
จัดเป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก มีอายุราว 1 ปี มีความสูงของต้นประมาณ 20-70 เซนติเมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านใกล้กับโคนต้น ข้อกลวง ต้นใหญ่ เป็นรูปกลมทรงกระบอก ลำต้นมีลักษณะกลมเป็นสีเขียวอ่อนอมสีแดง อวบน้ำมีเนื้อนิ่ม ผิวเรียบ เนื้อใส โคนต้นเป็นสีแดง
การปลูก
ปลูกง่ายโดยใช้เมล็ดปลูกปรับดินให้เรียบ กำจัดวัชพืชออกให้หมด หยอดเมล็ดลงในดินให้ลึก 2–3 ซม.กลบดินรดน้ำให้ชุ่ม
การปลูกและดูแลรักษา
เทียนบ้านปลูกเลี้ยงง่าย โตเร็ว ควรปลูกไว้ในที่ร่มรำไรและให้น้ำปานกลาง ถ้าปลูกไว้ในที่แสงแดดจัดจำเป็นต้องรดน้ำบ่อยครั้ง
ดอกหงอนไก่
ลักษณะของหงอนไก่
เป็นพรรณไม้ล้มลุกฤดูเดียว มีอายุเพียง 1 ปี มีลำต้นตั้งตรง สูงประมาณ 40-150 เซนติเมตร มักแตกกิ่งก้านเป็นสีเขียวแกมแดง ลำต้นมีลักษณะฉ่ำน้ำและมีร่องตามยาว เปลือกลำต้นมีทั้งสีแดงและสีเขียว
วิธีการปลูก
ขั้นแรก นำดินมาใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้
ขั้นที่สอง ใช้นิวเจาะดินให้เป็นรู
ขั้นที่สาม หยอดเมล็ดพันธุ์ลงไปในรูที่เตรียมไว้
ขั้นที่สี่ รดน้ำก็เป็นอันเสร็จ
การดูแล
ไม่ควรรดน้ำให้โดนดอกเพราะจะทำให้ดอกเน่าง่าย
ดอกชวนชม
ลักษณะของชวนชม
ลำต้น ยาว 1-2 เมตร ผิวตึงเพราะอวบน้ำ แตกกิ่งก้านได้ดี ใบสีเขียวค่อนข้างหนา ผิวใบเป็นมัน เส้นกลางใบเป็นสีเขียวเห็นได้ชัดเจน ใบรูปร่างยาวรี ปลายมน ใบจะอยู่ตามปลายกิ่งก้าน ดอก เป็นรูปแตร ปลายกลีบแยกออกจากกันเป็น 5 กลีบ ขนาดยาวราว 5 เซนติเมตร ออกดอกตามปลายยอดของกิ่งก้าน ดอกชวนชมมีหลายสี เช่น สีชมพู แดง ม่วง และสีขาว รวมทั้งมีสีเข้ม สีอ่อน และมีสีเหลือบต่างสีกลางกลีบดอกอีกด้วย
วิธีการปลูก
การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคารบ้านเรือน ใช้กระถางทรงและขนาด 12-18 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ขุยมะพร้าว : ดินร่วน อัตรา 1 : 1 : 1 ผสมดินปลูก เพื่อความสวยงามของทรงพุ่มควรดูแลตัดกิ่งให้เหมาะสม และควรเปลี่ยนกระถาง 1-2 ปี/ครั้ง เพราะการขยายตัวของรากแน่นเกินไป
การดูแลรักษา
แสง ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำน้อย ทนต่อความแห้งแล้งให้น้ำ 7-10 วัน/ครั้ง
ดิน ดินร่วนซุย
ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1-2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ปีละ 4-6 ครั้ง
การขยายพันธุ์ การปักชำ การตอน
โรคและศัตรู ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรู เพราะเป็นไม้ที่มีความทนทานต่อสภาพธรรมชาติ ได้ดี
ลำต้น ยาว 1-2 เมตร ผิวตึงเพราะอวบน้ำ แตกกิ่งก้านได้ดี ใบสีเขียวค่อนข้างหนา ผิวใบเป็นมัน เส้นกลางใบเป็นสีเขียวเห็นได้ชัดเจน ใบรูปร่างยาวรี ปลายมน ใบจะอยู่ตามปลายกิ่งก้าน ดอก เป็นรูปแตร ปลายกลีบแยกออกจากกันเป็น 5 กลีบ ขนาดยาวราว 5 เซนติเมตร ออกดอกตามปลายยอดของกิ่งก้าน ดอกชวนชมมีหลายสี เช่น สีชมพู แดง ม่วง และสีขาว รวมทั้งมีสีเข้ม สีอ่อน และมีสีเหลือบต่างสีกลางกลีบดอกอีกด้วย
วิธีการปลูก
การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคารบ้านเรือน ใช้กระถางทรงและขนาด 12-18 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ขุยมะพร้าว : ดินร่วน อัตรา 1 : 1 : 1 ผสมดินปลูก เพื่อความสวยงามของทรงพุ่มควรดูแลตัดกิ่งให้เหมาะสม และควรเปลี่ยนกระถาง 1-2 ปี/ครั้ง เพราะการขยายตัวของรากแน่นเกินไป
การดูแลรักษา
แสง ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำน้อย ทนต่อความแห้งแล้งให้น้ำ 7-10 วัน/ครั้ง
ดิน ดินร่วนซุย
ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1-2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ปีละ 4-6 ครั้ง
การขยายพันธุ์ การปักชำ การตอน
โรคและศัตรู ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรู เพราะเป็นไม้ที่มีความทนทานต่อสภาพธรรมชาติ ได้ดี
ดอกดาวเรือง
ลักษณะของดาวเรือง
ดาวเรือง เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๑-๕ ฟุต ใบเป็นใบแบบขนนก มีใบย้อย ๑๑-๑๗ ใบ ปลายใบ แหลม ขอบใบเป็นจัก ฟันเลื่อย ออกดอกที่ปลายยอดสีส้ม หรือสีเหลือง มีทั้งชนิดดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน เมล็ดสีดำ ปลูกได้ทุกฤดูกาลปลูกง่ายขึ้นในดิน เกือบทุกชนิด ทนทานต่อความแห้งแล้ง ใบเป็นฝอย มีกลิ่นหอมฉุน
การปลูกและดูแลรักษา
ดาวเรืองเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดจัด จึงควรปลูกในที่กลางแจ้งให้ได้รับแสงแดดโดยตรงอย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง สามารถเจริญเติบโตได้ในดินทุกชนิด แต่ถ้าจะให้ได้ดาวเรืองที่มีพุ่มต้นสมบูรณ์ ดอกดกใหญ่ และมีคุณภาพดีแล้ว ดินที่ใช้ปลูกควรมีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอ และมีการระบายน้ำดี การรดน้ำก็เป็นไปตามปกติ นอกเสียจากปลูกดาวเรืองในดินทรายจำเป็นต้องรดน้ำทั้งเช้าและเย็นเพราะดินทรายระบายน้ำได้ดีเกินไป
ดาวเรือง เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ ๑-๕ ฟุต ใบเป็นใบแบบขนนก มีใบย้อย ๑๑-๑๗ ใบ ปลายใบ แหลม ขอบใบเป็นจัก ฟันเลื่อย ออกดอกที่ปลายยอดสีส้ม หรือสีเหลือง มีทั้งชนิดดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน เมล็ดสีดำ ปลูกได้ทุกฤดูกาลปลูกง่ายขึ้นในดิน เกือบทุกชนิด ทนทานต่อความแห้งแล้ง ใบเป็นฝอย มีกลิ่นหอมฉุน
การปลูกและดูแลรักษา
ดาวเรืองเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดจัด จึงควรปลูกในที่กลางแจ้งให้ได้รับแสงแดดโดยตรงอย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง สามารถเจริญเติบโตได้ในดินทุกชนิด แต่ถ้าจะให้ได้ดาวเรืองที่มีพุ่มต้นสมบูรณ์ ดอกดกใหญ่ และมีคุณภาพดีแล้ว ดินที่ใช้ปลูกควรมีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอ และมีการระบายน้ำดี การรดน้ำก็เป็นไปตามปกติ นอกเสียจากปลูกดาวเรืองในดินทรายจำเป็นต้องรดน้ำทั้งเช้าและเย็นเพราะดินทรายระบายน้ำได้ดีเกินไป
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)